รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดบางเบา และไร้ถุงเก็บฝุ่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากฟิลิปส์ - Philips PowerPro Duo
“ฝุ่น” ใครว่าไม่สำคัญ! โดยเฉพาะฝุ่นในบ้านหรือคอนโดทีใช้เป็นที่อยู่อาศัยนี่แหละครับ หลายคนกลับบ้านไปทิ้งตัวลงโซฟาหรือที่นอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ นำฝุ่นที่ติดตัวจากเสื้อผ้ารองเท้ากลับเข้าบ้านอีก ทำให้บ้านกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นที่จะสามารถทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเช่น “ภูมิแพ้ หอบหืด ไปจนถึงโรคเกี่ยวกับปอดและหัวใจ” ได้เลย..
ใครจะเชื่อว่าแค่พรม 2 ผืน จะถูกดูดฝุ่นออกมาได้ขนาดนี้! ขนลุกซู่ๆ
มากำจัดฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพกันเถอะ!
หลายๆบ้านอาจจะมีเครื่องดูดฝุ่นประจำบ้านกันอยู่แล้ว แต่เครื่องดูดฝุ่นที่เราหยิบมารีวิวนี้อาจจะเป็นเครื่องดูดฝุ่น ๐ ที่จะเปลี่ยนภาพเครื่องดูดฝุ่นในหัวของคุณไปได้เลย เพราะเราว่ามันเจ๋งจริง! ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน ความสะดวกสบาย และที่สำคัญคือเรื่องการทำความสะอาดฝุ่น
แกะกล่องรีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายฟิลิปส์ “PowerPro Duo” ตัวใหม่
ต้องบอกว่าค่อนข้างแปลกใจที่สมัยนี้เครื่องดูดฝุ่นมันมีหน้าตาเป็นก้านยาวๆแบบนี้ไปแล้วเหรอ จากที่เมื่อก่อนมันเป็นถังอ้วนๆหนักๆ เปลืองพื้นที่ ใช้ถุงเก็บฝุ่น พอฝุ่นเต็มทีต้องเปลี่ยนถุงใหม่หรือถ้าประหยัดหน่อยก็ต้องเทฝุ่นทิ้ง ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายกว่าเดิมอีก..
อุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง
ในกล่องมีเครื่องดูดฝุ่นสีแดงดำดีไซน์ทันสมัยที่ถอดก้านจับออกได้ หัวดูด 2-in-1 และหัวดูดแบบซอกซอน อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และชุดสกรูยึดติดผนัง (แต่มันตั้งด้วยตัวเองได้สบายมากๆ) รวมถึงคู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
จุดเด่นของเจ้าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่เรานำมารีวิวครั้งนี้
- มันไร้สาย! แค่ไร้สายนี้เราก็ว้าวแล้ว น้ำหนักยังเบาและเก็บในซอกตู้ได้สบายๆด้วย
- มันเป็นแบบ 2-in-1 นอกจากใช้ดูดฝุ่นบนพื้นได้อย่างสะดวกแล้ว ยังสามารถแยกร่างออกเป็นมือถือได้อีกด้วย
- แบตเตอรี่พลังแรง ใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 1 ชั่วโมง หลังจากการชาร์จไฟเพียง 5 ชั่วโมง
- ไม่มีถุงเก็บฝุ่น โดยใช้กระบอกเก็บฝุ่นที่สามารถถอดเท และล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
- เทคโนโลยีใหม่ ด้วยแผ่นกรอง 3 ชั้นพิเศษจากเยอรมันนี สามารถดักจับอนุภาคละเอียดพิเศษ พวกแบคทีเรีย ละอองเกษร ฯลฯ และใช้เทคโนโลยี PowerCyclone ระบบดูดและระบายลมแบบพิเศษ
มาเริ่มทดลองใช้งานกันเถอะ!
1.เริ่มแรกเราต้องต่อแขนต่อขากันก่อน โดยนำท่อนจับมาเสียบเข้ากับตัวล็อคก้านกับตัวฐาน แล้วใช้สกรูไขน็อตที่ให้มาในกล่องให้แน่นแล้วลอกแถบกันกระแทกออกด้วย
2. เติมพลังชาร์จไฟกันก่อนนน เพราะเราลองเปิดเครื่องดูดฝุ่นแล้ว ใช้ได้เพียง 3 นาทีแบตเตอรี่ก็หมดซะแล้ว ซึ่งเราให้ความเห็นว่าว่าสายไฟและอะแดปเตอร์มีขนาดเล็กดีมากกกก
ด้านหน้าของตัวเครื่องมีระดับแบตเตอรี่ถ้าชาร์จเต็มแล้วจะขึ้นไฟสีเขียวคือพร้อมใช้งานแล้ว ส่วนปุ่มเปิด-ปิด ใช้ได้ทั้งบนด้ามจับด้านบน และบนตัวแยกแบบมือถือ
นอกจากจะมีตะขอยึดกับผนังเพื่อความมั่นคงแล้ว มันยังสามารถตั้งเองได้ในตัวไม่ล้ม โดยที่ไม่ต้องพิงกับอะไรทั้งสิ้น (เกร๋กุ๊ดด)
แบตเต็มแล้ว! ถอดสายไฟ.. ใช้งานแบบไร้สายกันเลย
ความรู้สึกหลังจากการเปิดเครื่อง ต้องบอกว่ามันดูมีพลังในขณะที่เสียงไม่ดัง มากปุ่ม POWER บริเวณด้ามจับจะใช้เปิด-ปิด เครื่องได้ และหากต้องการพลังแรงสุดขีดดให้กดปุ่ม MAX ได้เลยย (เสียงดูดอย่างกะไซโคลน)
ที่ตัวด้ามจับเครื่องดูดฝั่นเราว่าเค้าออกแบบมาให้จับถนัดได้มือ สามารถประคองตัวเครื่องให้ใช้งานได้อย่างง่าย ไม่ว่าจะลาก จะดันตัวเครื่องไปทางไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำความสะอาดทุกพื้นผิว
โดยเฉพาะตามซอกโต๊ะ ใต้เตียง เครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวนี้สามารถซอกซอนได้อย่างสบายเลยละ ด้วยข้อต่อที่หมุนได้อย่างอิสระสามารถยกขึ้นลงในแนวตั้งได้ 90 องศา และบิดไปบิดมาในแนวนอนได้อย่างอิสระ
ห้ามดูดพื้นเปียกหรือน้ำ
ตัวนี้มีข้อจำกัดเหมือนกันนะคือ ห้ามดูดบนพื้นที่เปียก เพราะมันดูดน้ำไม่ได้ ถ้ามันทำได้จะเจ๋งงมาก
มาแยกร่างเป็นเจ้าตัวเล็กพลังแรงกันดีกว่า
เราว่าข้อดีดี้ดีคือการแยกร่างมันนี้แหละ เพราะเราสามารถถือเจ้าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้ไปใช้บนโซฟา ในตู้เสื้อผ้า ในรถ ถือไปดูดฝุ่นตามซอกต่างๆได้อย่างง่ายดายเพียง 1 คลิก
แยกร่างแล้วขนาดเล็กมากสามารถใช้หัวดูดฝุ่นทั้ง 2 หัวที่ให้มา เปลี่ยนตามการใช้งานได้เลย
กระบอกเก็บฝุ่น ไม่ง้อถุงเก็บฝุ่น!
จุดที่เราบอกว่ามันเป็นเทคโนโลยี Power Cyclone ก็ตรงนี้แหละ สังเกตุตรงด้านบนสีฟ้าๆ เค้าออกแบบมาให้มีระบบดูดอากาศเป็นทางโค้ง (แปลกดี) ในส่วนนี้เราสามารถแยกร่างได้อีกเป็น 5 ชิ้นเลยทีเดียว!
แกะที่ฝากรองด้านบนออกมาก็จะเป็นแผ่นกรอง 3 ชั้น ที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กพวกแบคทีเรีย ละอองเกสร และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เพื่อให้มีอากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น อันนี้คือดีสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
ทดลองดูดพรมที่ใช้งานมากว่า 1 ปี
ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเครื่องดูดฝุ่นนะ อาศัยไม่กวาดง็อกง่อยกับที่โกยผงเท่านั้นแหละ เพราะฉนั้นพรม 2 ผืนนี้ไม่ได้ถูกดูดฝุ่นเลย นอกจากเอาไปตบๆฝุ่นและตากกลางแดด! จะเป็นยังไงมาดูกัน
เราเปลี่ยนเป็นหัวดูดฝุ่นแบบหัวแปรงเทอโบขนาดเล็ก สำหรับการทำความสะอากพวกโซฟา เบาะ ฟูก ฯลฯ ได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือ ตัวนี้เหมาะสำหรับการดูดขนสัตว์อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงหมา แมวมากๆ
ดูดพรม 2 ผืนเสร็จเรียบร้อยทั้งด้านบนและใต้พรม ซึ่งเราต้องบอกว่ามันดูดได้ง่ายไม่สะดุดด้วยหัวแปรงที่เค้าให้มาเฉพาะ
ผลการทดลองดูดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้!
OMG! ไม่คิดเลยว่าฝุ่นที่ถูกดูดออกมาจากพรมที่เราใช้งานมากว่า 1 ปีจะมีสภาพแบบนี้ คือมันเป็นฝุ่นจริงๆอะ ฝุ่นที่เราไม่คิดว่ารวมๆกันแล้วมันจะเยอะมากมายขนาดนี้
ซุมให้ดูชัดเจนว่ามันดูดอะไรมาบ้าง OMG อีกรอบ! และหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว เรามาทำความสะอาดกระบอกเก็ฝุ่นกัน!
ง่ายๆ แค่เทมันทิ้ง แยกชิ้นส่วนออกมาล้างทำความสะอาดทีละชิ้น ทีละชิ้น
วางทิ้งไว้หรือจะเช็ดให้แห้งก็ได้ (ยกเว้นแผ่นกรองห้ามนำไปล้าง)
หลังจากกระบอกเก็บฝุ่นแห้งดีแล้ว ก็ประกอบกลับเหมือนเดิมก็ไม่ยากเลยเพราะมันมีล็อคที่พอดีอยู่แล้ว
วีดีโอรีวิวเครื่องดูดฝุ่น Philips Power Duo
ข้อมูลจำเพาะเชิงเทคนิค
สรุปรีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Philips PowerPro Duo รุ่น FC6172
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเจ้าตัวนี้รูปร่างบางเบาทรวดทรงทันสมัย มีความคล่องตัวใจการใช้งานสูง จะดูดฝุ่นใต้โต๊ะ ใต้เตียง แยกร่างออกเป็นมือถือ เปลี่ยนหัว ดูดฝุ่นบนโซฟา ใช้งานในรถ ดูดฝุ่นในที่จำกัดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พลังดูดแรงด้วยเสียงที่เงียบ ที่สำคัญที่ถูกใจเรามากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องไร้ถุงเก็บฝุ่น แกะ เทฝุ่น และล้างกระบอกเก็บฝุ่นได้อย่างง่ายดาย! ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ฟิลิปส์ คลิกเลย
ราคาจำหน่าย 12,990 บาท
Leave your comment
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น