ร้านกาแฟร้านใหม่แกะกล่องย่านลาดพร้าว 71 ร้านนี้มีชื่อว่า “Red Diamond Cafe” เป็นร้านกาแฟที่จริงจังเรื่องกาแฟมากถึงมากที่สุด! มาสัมผัส “ความล้ำ” ของร้านกาแฟร้านนี้.. ในย่านที่มีร้านกาแฟดังๆคับคั่งที่สุดกันได้เลย

ใครจะเชื่อว่าตึกเหล็กสนิมเขรอะ ที่ภายนอกเหมือนโรงงานเหล็กเก่าๆตรงหัวมุมถนนสังคมสงเคราะห์ จะซ่อนความเป็นร้านกาแฟที่มีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน พร้อมมีคอร์สสอนเรื่องกาแฟแบบจริงจังที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลก

สีของตัวตึกที่ดูเก่าๆดิบๆแนว Loft ทำให้หลายคนคิดไม่ถึงว่าที่นี่คือ “ร้านกาแฟ” ทำให้โดดเด่นออกมาจากความเป็นร้านกาแฟที่เราคุ้นเคย ด้านในก็ยังมีสไตล์ที่ไม่เหมือนร้านกาแฟอีกด้วย เป็นความตั้งใจที่อยากให้เป็น Hidden Place ที่ทุกคนต้องอยากมา

เข้ามาด้านใจเราจะเจอกับ “Play Ground” ที่เป็นเหมือนห้องทดลองกาแฟ มีคลังเมล็ดกาแฟนานาพันธุ์ด้านขวามือ ระบุ “สารกาแฟ” (แหล่งที่มา) อย่างชัดเจน  1 ในนี้มีเมล็ดกาแฟที่มาจากไร่กาแฟของทางร้านเองที่ “ผาตั้ง” จ.เชียงราย

ด้านซ้ายมือจะสามารถมองทะลุกระจกเข้ามาได้ จะเป็นส่วนของเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่มีอยู่หลายขนาด ตั้งแต่การเทสด้วยเครื่องขนาดเล็ก 45 กรัม เทสคั่วขนาด 2 กิโลกรัม เทสคั่วขนาด 5 กิโลกรัมที่ควบคุมด้วยดิจิทัล และก็ยังมีเครื่องคั่วขนาดใหญ่ที่เค้าดีไซน์และออกแบบเอง ผลิตที่ประเทศไทยอีกด้วย (ราคาเครื่องไม่ต้องพูดถึง เพราะแต่ละเครื่อง 6 หลักขึ้นทั้งนั้น)

ด้วยความครบครันเรื่องกาแฟของที่นี่ ทำให้เหมาะกับเป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟในทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องอุปกรณ์ เมล็ดกาแฟ การคั่วกาแฟ การชงกาแฟ และเรื่องราวอื่นๆของกาแฟได้เป็นอย่างดี

คนนี้คือ Head Barista สุดเท่ห์ของที่นี่ “คุณนิโคลลัส” (หรือคุณนิค) ต้อนรับเราที่ Coffee Bar ที่มีลักษณะพิเศษคือ เป็นบาร์ที่  “โล่งโปร่ง” มีอุปกรณ์ค่อนข้างแปลกตา และยังพาเราเดินสำรวจร้านด้วยตัวเองอีกด้วย

“เมนูกาแฟและเครื่องดื่ม”

คุณนิคหยิบเมนูกาแฟให้เรา ราคาเริ่มต้นที่ 120 บาทขึ้นไป (ใช้กาแฟ Specialty ทั้งหมด) COE (Cup of Excellece) 87 points เพิ่มอีก 100 บาท  NinetyPlus (90 points ขึ้นไป) เพิ่มอีก 150-200 บาท บาริสต้าก็จะถามสไตล์ของกาแฟที่เราชอบ เราไม่ชอบเปรี้ยว ขอเข้มๆ คุณนิคก็ customized กาแฟให้เราได้รสชาติที่เราถูกใจ

ที่สำคัญบาริสต้าจะตรวจคุณภาพของเมล็ดกาแฟในทุกๆเช้า เพราะเมล็ดกาแฟผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทุกวัน และยังมีเมนู Coffee Today  ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟพิเศษที่เสิร์ฟได้ไม่กี่แก้วต่อวันเท่านั้นอีกด้วย

ต้องบอกว่าบรรยากาศตรงคอฟฟี่บาร์นี้ค่อนข้างมืดด้วยแสงไฟสลัวๆ เพลงตึ๊ดๆสไตล์ Hip Hop เปิดคลอไปด้วยเบาๆ เหมือนนั่งอยู่ในร้านเหล้ายังไงอย่างงั้น (เท่าที่พูดคุยเล่นๆกับคุณนิคคืออาจจะเทิร์นเป็นบาร์ด้วยในอนาคต)

ไฮไลท์คือ “เครื่องชงกาแฟ” ที่สุดแพง แต่ดีที่สุด

Coffee Bar ที่ Red Diamond มีเครื่องชงกาแฟอยู่ 3 เครื่อง เมล็ดกาแฟคั่วที่ผ่านการทดลองแล้วถึงจะสามารถผ่านมาเสิร์ฟที่ค็อฟฟี่บาร์นี้ได้

ไม่มีเครื่องชงกาแฟใหญ่ๆให้รกหูรกตาเพราะส่วนของเครื่องขนาดใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้เค้าเตอร์นั่นเอง ทำให้ Barista ได้พูดคุย ชิตแชท และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีทีเดียว นี่เป็นความตั้งใจที่จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่พิเศษจากบาริสต้า

ส่วนเครื่องซ้ายมือสุดนี้จะเป็น Steampunk ใช้แรงดันในการชงกาแฟ เป็นเครื่องชงกาแฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องแบบ Syphon

แต่จุดเด่นของเครื่องนี้คือควบคุมทุกอย่างได้ด้วยแอพพลิเคชั่นในแท๊บเล็ต ทำให้ได้อุณหภูมิ ความดัน เวลาคงที่สม่ำเสมอ และดีไซน์เท่อย่าบอกใคร

ความสุขและความสนุกของการมาทานกาแฟที่ร้านนี้คือ เราจะได้สัมผัสรสชาติของกาแฟที่เราต้องการ เพราะ Barista สามารถชงกาแฟโดยจะสอบถามความต้องการของเราก่อน หลังจากนั้นไอเดียในการชงกาแฟแต่ละแก้ว จะถูกเขียนออกมาผ่านกาแฟที่เสิร์ฟโดยเฉพาะ

ดูเมล็ดกาแฟของที่ Red Diamond ซะก่อน ไม่ได้มีเพียงกระปุกสองกระปุกเหมือนร้านกาแฟทั่วๆไป  บาริสต้าจะ Mix & Match เมล็ดกาแฟ เพื่อครีเอทรสชาติของกาแฟที่ต้องการจากส่วนนี้

ดื่มด่ำกาแฟเสร็จแล้ว จะติจะชมบาริสต้าหรือรสชาติกาแฟอย่างไรนั้นสามารถใช้เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเดอะพิมพ์ความรู้สึกได้เลย  (ENG ONLY) พิมพ์เสร็จก็หย่อนลงกล่อง

“สำรวจร้าน”

คุณนิคพาเราสำรวจและแนะนำพื้นที่ของร้านบริเวณชั้น 2 ด้วย ทางขึ้นเราจะเห็น Certificate ของ SCAE, SCAA และ CQI  อยู่เต็มผนัง เจ้าของร้านและ Coffee Trainer ของที่นี่ได้รับการรับรองแล้วทุกคนเช่นกัน ทำให้ที่นี่มีคลาสสอน COFFEE LAB อยู่ที่ชั้น 3 ด้วย

พื้นที่ด้านบนจะสว่างกว่าด้านล่างพอสมควร เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถให้แสงผ่านเข้ามาได้ ชั้นนี้เหมาะกับ หอบโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานชิวๆได้ มี FREE WIFI บริการเช่นกัน

ชั้น 2 นี้มีห้องสูบบุหรี่ด้วยนะ  ไม่ต้องเสียเวลาเดินเข้าเดินออกนอกร้าน สามารถดื่มแก้วกาแฟและสูบบุหรี่ได้ในห้องนี้ได้เลย… ฟินนไหมพูด

นอกจากเรื่องสไตล์ของร้านที่ไม่เหมือนที่อื่นแล้ว เรื่องกาแฟของที่นี่ก็คัดสรรมาอย่างดี ใช้กาแฟ Specialty ทั้งหมด เสิร์ฟรสชาติกาแฟตามความต้องการของลูกค้าได้ และบาริสต้าก็อัธยาศัยดี๊ดี ทำให้เรานั่งอยู่หน้า coffee bar นานๆได้โดยไม่เขิน

ที่ Red Diamond เมล็ดกาแฟคืออัญมนีที่มีค่า มีความพิถีพิถันและใส่ใจเรื่องกาแฟอย่างจริงจัง ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ การคั่ว บด เบลน และชงกาแฟ ทำให้ได้กาแฟที่รสชาติถูกปากในบรรยากาศที่ถูกใจอีกด้วย

ร้านกาแฟ Red Diamond Cafe ลาดพร้าว 71

☎  เบอร์โทรศัพท์ 085-044-2662
✅  ประเภทอาหาร ร้านกาแฟ, คอร์สสอนเรื่องกาแฟ, ขายเมล็ดกาแฟ, ขายอุปกรณ์กาแฟ
⏰  เวลาเปิด-ปิดร้าน เปิดเวลา 10:30-20:00 น.  (ร้านปิดทุกวันจันทร์)
✅  รับเฉพาะเงินสด
 ร้านมีที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้าม