จะว่าไป CentralFestival EastVille ก็เปิดมานานพอสมควรแล้วนะคะ แต่พึ่งจะได้ฤกษ์เปิดตัวโซน B2S แห่งใหม่ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าเป็น B2S ที่ไม่ธรรมดาจริงๆเพราะอะไรนั้น ติดตามได้จากรีวิวความดีงามของ THINK SPACE B2S กันเล้ยยย

เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จัก B2S ร้าน Stationary และ Book Store ชื่อดังประจำห้างเซ็นทรัลหรือโรบินสันกันอยู่แล้วแหละ แต่ถ้ามา B2S  ที่นี้คงต้อง “ว๊าว” ในใจแน่ๆ เพราะที่นี้… เป็นมากกว่านั้น พามาดูโซน Book Store กันก่อนดีกว่าค่ะ พื้นที่ตรงส่วนกลางนี้ ออกแบบให้เป็นห้องโถงกับ Space เล่นระดับสลับด้วยชั้นวางหนังสือแนวสูง ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในคลังหนังสือขนาดใหญ่เลยละคะ

ถัดขึ้นไปชั้นบนสุดจะเป็น Co-working Space และ Restaurant ซึ่งวันที่ไปยังไม่เปิดให้บริการค่ะ สอบถามได้ใจความว่าอีกประมาณเดือนนึงถึงจะเปิดอย่างเต็มรูปแบบ แต่แอบสงสัยว่าพื้นที่ Co-Working Space จะน้อยไปไหม (โซนที่เห็นเก้าอี้หุ้มพลาสติก) ซึ่งคาดว่าจะน้องเสียค่าใช้บริการด้วยค่ะ (อันนี้ยังไม่ชัวร์นะคะ)

หนังสือบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นหนังสือต่างประเทศที่หาค่อนข้างยาก เช่น หนังสือเกี่ยวกับ Art & Design, Trend Fashion, Architect, Fictions, Marketing, Science,  How to ต่างๆ เรียกว่าครบค่ะ กระจายตามโซนต่างๆโดยรอบ

นอกจากหนังสือแล้วชั้นลอยบริเวณนี้เค้าก็ Diaplay Stationary แนวชิคๆไว้ด้วยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องหนัง เช่น กระเป๋าใส่ปากกาดินสอ ปากกาสวยๆ และอุปกรณ์สำหรับการอ่านหนังสือค่ะ

หนังสือไทยขายดีและได้รับความนิยมก็จัดเรียงเป็นหมวดหมู่ไว้บริเวณนี้เช่นกันค่ะ ด้านบนบริเวณชั้น 2 มี Labtop Bar ปลั๊กไฟ และเก้าอี้สตูไว้ด้วย แต่ไม่ได้มีเยอะตลอดแนวค่ะ เท่าที่นับดูมีเพียง 10 ที่เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าคนจะมานั่งกันเต็มแน่ๆค่ะ

และที่สำคัญที่สุดสำหรับเหล่าบรรดา Freelancer ทั้งหลาย Free Wi-Fi ก็มีให้บริการค่ะ แค่ต้องเป็นสมาชิก The1Card ด้วย เพราะต้องใช้หมายเลข The1Card ในการ Log-in ด้วย ซึ่งลองใช้ดูแล้วความเร็วใช้ได้เลยค่ะ เรียกได้ว่าเข้าอินเทอร์เน็ตได้แบบสบายๆ

ถัดจากเรื่องหนังสือและ Co-Working Space กันแล้วพามาดูโซนอื่นๆที่น่าสนใจกันบ้างค่ะ อย่างที่บอกว่าที่นี้ไม่ได้เป็นแค่ Book store และ Stationary เค้ามี เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ทันสมัย display อวดไอเดียตามมุมต่างๆเยอะเลยค่ะ

เราสะดุดกับห้อง Workshop นี้ที่สุดเลยค่ะ ครัวน่ารักสำหรับคุณหนูๆนี้เป็น Workshop จาก A Little Something ซึ่งน่าจะมี Course ต่างๆออกมาให้น้องๆได้เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวจากการทำอาหารค่ะ

ส่วนโซนที่ถูกใจเรามากที่สุด ต้องยกให้เป็นโซน Entertainment เค้าละค่ะ

ลำโพงและหูฟังที่นี่ก็มีจำหน่ายด้วย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่สินค้าตามท้องตลาดนะคะ ค่อนข้างจะเป็นแบรนด์ Hi-end ที่เน้นดีไซน์และคุณภาพเสียงดีๆ รวมถึง B&O (Bang & Olufsen)  เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกเชียวค่ะ เค้ามีห้องพิเศษเฉพาะเลย ดู Luxury มั๊กๆ (ถ้าใจไม่ถึงห้ามดูราคาค่ะ)

ห้อง Entertainment ect. เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เพราะบริเวณนี้มีทั้ง ซีดี ดีวีดี เพลงและภาพยนตร์ แผ่นเสียง ฯลฯ เราเชื่อว่ามาที่นี่ จบที่เดียวค่ะ (ช่วยกันสนับสนุนแผ่นแท้กันดีกว่านะคะ ^^)

บรรยากาศภายในห้องค่ะ คนรักเพลงและหนังอย่าได้หลงเข้ามาเชียว มีลืมเวลาแน่ๆค่ะเพราะจะต้องหลงใหลและมันเพลินจริงๆ (เสียตังก์กะโซนนี้ด้วยค่ะ) ที่ดูแปลกตากว่า B2S  ที่อื่นก็น่าจะด้วยบรรยากาศและการจัดของนี่แหละค่ะ น่าหยิบน่าจับไปหมด

แผ่นเสียงที่นี่มีทั้งเก่าและใหม่ หลากหลายศิลปินเลยแหละ ใครที่ฟังแผ่นเสียงลองมาเยี่ยมชมแล้วบอกด้วยว่าโอเครึเปล่า ส่วนตัวไม่เคยฟังเพลงจากแผ่นเสียงเลยไม่รู้ว่ามีเยอะขนาดไหน แต่ชอบ Susan Wong มั๊กๆนะ ร้องเพลงเพราะแบบให้อารมณ์ได้ดีจริงๆ

มาแล้วกับโซนที่คุ้นเคยกันดี Stationary หรือเครื่องเขียนนั่นเอง โดยเฉพาะปากกกามีห้องโดยเฉพาะเลยเชียว ต้องบอกว่าปากกาหลากสีละลานตามาก ได้มาแท่งนึงด้วยละ ลองอยู่เกือบ 15 นาทีเพราะอยากได้ไปหมด

ห้องศิลปะก็มีนะคะ มีอุปกรณ์วาดรูปในห้องนี้เพียบ มีสีทุกประเภท น่าหยิบจับมาละเลงเล่นจริงๆ คนที่รักงานศิลปะต้องถูกใจห้องนี้แน่ๆค่ะ

บริเวณนี้ก็คงคุ้นตากันแล้วค่ะ เพียงแต่จัดเรียงใหม่ไม่ให้ดูรกเกินไป

บริเวณโซน Stationary ก็จะมีไอเดียของตกแต่งโต๊ะทำงาน และ Gadgets ต่างๆ ด้วยนะคะ ก็เน้นที่ดีไซน์กิ๊บเก๋และก็มีหลายอย่างที่เราไม่เคยเห็นค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับ THINK SPACE B2S ที่เค้าบอกว่าเป็น Co-Working Space ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่อย่างที่บอกว่ายังไม่ได้เปิดให้บริการอีก 2 ส่วนคือพื้นที่ Co-working soace กับ Restaurant ถ้าเปิดครบแล้ว เราคิดว่าน่าจะเป็นสถานที่เรียนรู้แห่งใหม่ที่จะมาเติมเต็มแรงบัลดาลใจในย่านลาดพร้าวใกล้ๆนี่เองค่ะ